#navbar { display:none; }

รักทักษิณ

รักทักษิณ

.

.
ผมไปร่วมสัมนาระดมสมอง

.

.
ทุ่นตรวจวัดภัยธรรมชาติ

แปลภาษา

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554






พลง : วันสีชมพู
ศิลปิน : เบน
เนื้อเพลง : 

ฉันนั่งมองผู้คนมากมาย บนถนน
เห็นรถยนต์หลีกทางให้กัน
เห็นผู้ชายยื่นมือไปช่วยเด็กคนนั้น
ทำให้ฉันอดอมยิ้มความน่ารัก..ไม่ไหว
*ภาพเหล่านั้นทำให้ฉันนั้นได้เข้าใจ
มอบความรักที่ไม่หวังผลนั้นเป็นเช่นไร
แค่เพียงภาพเดียวฉันก็ยิ้มได้
จึงอยากจะเก็บมันเอาไว้
**อยากจะเก็บวันเวลาดีดีเหล่านั้นให้คงอยู่
วันที่ใจคนเราแบ่งรักกันจนเป็นสีชมพู
อยากจะเก็บเอาไว้...
อยากจะให้วันเวลาดีดีเหล่านี้ไม่มีวันจบ
วันที่ใจคนเราออกไปพบหัวใจของคนอื่น
ยิ่งคิดยิ่งชื่นใจ
เห็นนักเรียนเดินจูงคุณยาย..ข้ามถนน
และเด็กช่างกลเดินกอดคอกัน
ฉันนั่งมองที่ดวงตาเหล่านั้น
ทำให้ฉันอดอมยิ้มความน่ารัก..ไม่ไหว
*,**
อยากจะเก็บวันเวลาดีดีเหล่านี้ให้คงอยู่
วันที่ใจคนเราแบ่งรักกันจนเป็นสีชมพู~
อยากจะเก็บเอาไว้...
อยากจะให้วันเวลาดีดีเหล่านั้นไม่มีวันจบ
วันที่ใจคนเราออกไปพบหัวใจของคนอื่น
ยิ่งคิดยิ่งชื่นใจ
ชื่นใจ
ยิ่งคิดยิ่งชื่นใจ
ยิ่งคิดยิ่งชื่นใจ
ชื่นใจ
ชื่นใจ

วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

                 มุมมองความคิด

การบริหารความเสี่ยง บนพี้นฐานที่มั่นคงเเละยั่งยืน

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ประชาชน-นักเรียนร่วมงานวันมาฆบูชาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตคึกคัก จัดหลายกิจกรรมสร้างจิตสำนึกยึดมั่นในหลักคำสอนพระพุทธศาสนา
       วันนี้ (18 ก.พ.) ที่วัดมงคลนิมิต (พระอารามหลวง) หรือวัดกลาง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานวันมาฆบูชาประจำปี 2554 ซึ่งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ตร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นผู้ที่มีจิตใจยึดมั่นในหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งร่วมกันสืบทอดหลังคำสอนพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ตลอดไป และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม โดยมีประชาชน นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมจำนวน
      
       ภายในงานจัดให้กิจกรรมต่างจำนวนมาก ทั้งการเวียนเทียน การฟังเทศฟังธรรมจากพระคุณเจ้า การทำบุญตักบาตร การประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะ การประกวดบรรยายธรรม การจัดแสดงนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับวันมาฆบูชา การจัดนิทรรศการจัดโต๊ะหมู่บูชา และกิจกรรมให้ความรู้ต่างๆอีกจำนวนมาก
      
       ขณะที่วัดวิชิตสังฆาราม หรือ วัดควน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต และนักเรียนจากโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ภูเก็ตจำนวนมากได้ร่วมกันประกอบพิธีทางศาสนาเนื่องในวันมาฆบูชาเช่นเดียวกัน ขณะที่วัดอื่นๆในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตต่างก็คึกคักไปได้ประชาชนที่เดินทางมาร่วมพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
      
       ทั้งนี้ วันดังกล่าวเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ท่ามกลางที่ประชุมมหาสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพระพุทธศาสนา โดยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นพร้อมกัน 4 ประการ คือ พระสงฆ์สาวกที่มาประชุมพร้อมกันทั้ง 1,250 รูปได้มาประชุมกันยังวัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย ,พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดต่างล้วนเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" คือผู้ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง, พระสงฆ์ทั้งหมดที่มาประชุมล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 6 , และ วันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญมาฆปุรณมีดิถี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ดังนั้นจึงมีคำเรียกวันนี้อีกคำหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" หรือ วันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์ 4

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันมาฆบูชา (บาลีมาฆปูชาอังกฤษMagha Puja) เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของชาวพุทธเถรวาทและวันหยุดราชการในประเทศไทย[1] "มาฆบูชา" ย่อมาจาก "มาฆปูรณมีบูชา" หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะ ตามปฏิทินของอินเดีย หรือเดือน 3 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย (มักอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนมีนาคม) ถ้าในปีใดมีเดือน อธิกมาส คือมีเดือน 8 สองหน (ปีอธิกมาส) ก็เลื่อนไปทำในวันเพ็ญเดือน 3 หลัง (วันเพ็ญเดือน 4) [2]
วันมาฆบูชา ได้รับการยกย่องเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเนื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ท่ามกลางที่ประชุมมหาสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพระพุทธศาสนา โดยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นพร้อมกัน 4 ประการ คือ
  1. พระสงฆ์สาวกที่มาประชุมพร้อมกันทั้ง 1,250 รูปนั้นได้มาประชุมกันยังวัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย
  2. พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดต่างล้วนเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" คือผู้ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง,
  3. พระสงฆ์ทั้งหมดที่มาประชุมล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 6, และ
  4. วันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญมาฆปุรณมีดิถี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ดังนั้นจึงมีคำเรียกวันนี้อีกคำหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" หรือ วันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์ 4[3][4]
เดิมนั้นไม่มีการประกอบพิธีมาฆบูชาในประเทศพุทธเถรวาท จนมาในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) พระองค์ได้ทรงปรารภถึงเหตุการณ์ครั้งพุทธกาลในวันเพ็ญเดือน 3 ดังกล่าวว่า เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญยิ่ง ควรมีการประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาเพื่อเป็นที่ตั้งแห่งความศรัทธาเลื่อมใส จึงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชกุศลมาฆบูชาขึ้น[5] โดยการประกอบพระราชพิธีคงคล้ายกับวันวิสาขบูชา คือมีการบำเพ็ญพระราชกุศลต่าง ๆ มีการพระราชทานจุดเทียนตามประทีปเป็นพุทธบูชาในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระอารามหลวงต่าง ๆ เป็นต้น โดยในช่วงแรกพิธีมาฆบูชาคงเป็นการพระราชพิธีภายใน ยังไม่แพร่หลายทั่วไป จนต่อมาความนิยมจัดพิธีมาฆบูชาจึงได้ขยายออกไปทั่วราชอาณาจักร
ปัจจุบันวันมาฆบูชาได้รับการประกาศให้เป็นวันหยุดราชการในประเทศไทย[1] โดยพุทธศาสนิกชนทั้งพระบรมวงศานุวงศ์[6] พระสงฆ์ และประชาชน จะมีการประกอบพิธีต่าง ๆ เช่น การตักบาตร การฟังพระธรรมเทศนา การเวียนเทียน เป็นต้น เพื่อเป็นการบูชารำลึกถึงพระรัตนตรัยและเหตุการณ์สำคัญดังกล่าว ที่ถือได้ว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์[7] ซึ่งกล่าวถึงหลักคำสอนอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตของตนให้ผ่องใส เพื่อเป็นหลักปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนทั้งมวล
นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยได้ประกาศให้วันมาฆบูชา ให้เป็น "วันกตัญญูแห่งชาติ" เนื่องจากปัจจุบันสังคมไทยวัยรุ่นสาวมักจะเสียตัวในวันวาเลนไทน์หลายหน่วยงานจึงพยายามรณรงค์ให้วันมาฆบูชาเป็นวันแห่งความรัก (อันบริสุทธิ์) แทน
สำหรับในปี พ.ศ. 2554 นี้ วันมาฆบูชาจะตรงกับ วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ตามปฏิทินสุริยคติ

ขอขอบคุณขอมูลจาก วีกิพีเดีย

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554



นายปมุข อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมการบริหารโรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ป ประกอบด้วย โรงแรมภูเก็ต ออร์คิด รีสอร์ท โรงแรมกะตะบีช รีอสอร์ท โรงแรมกะรนบีช รีสอร์ท และโรงแรมกานดาบุรี รีสอร์ท สมุย เปิดเผย ว่า จากการเติบโตของการท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และจังหวัดอันดามันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2553 ต่อเนื่องต้นปี 2554 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยมีตัวเลขอัตราการเข้าพักดีกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านๆ มา ดังนั้นเพื่อรองรับการเติบโตที่ยังมีอยู่จึงได้มีแนวคิดในการขยายการลงทุนเพิ่ม โดยก่อสร้างโรงแรม Khaolak Cassaway Resort & Spa บริเวณหาดปากวีป เขาหลัก จ.พังงา บนเนื้อที่ประมาณ 66 ไร่ ซึ่งจะบริหารงานโดยบริษัท เจ้าฟ้าบุรี จำกัด เนื่องจากมองว่าเป็นพื้นที่ที่จะมีการเติบโตด้านการท่องเที่ยวค่อนข้างสูงในอนาคต
“เงินลงทุนทั้งหมดคาดว่าจะใช้ประมาณ 600-700 ล้านบาท ส่วนหนึ่งจำนวนประมาณ 470 ล้านบาทได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกสิกรไทย ซึ่งได้ลงนามในสัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโรงแรมแห่งนี้จะเป็นระดับ 4 ดาวบวก มีจำนวน 153 ห้องพัก ประกอบด้วย ห้องพัก Duplex Bungalow จำนวน 148 ห้อง, 1 Bedroom Bungalow จำนวน 3 ห้อง, 2 Bedroom Bungalow จำนวน 2 ห้อง จุดเด่น คือ ความเป็นธรรมชาติโดยตั้งอยู่ติดกับชายหาดปากวีปซึ่งค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว การออกแบบเน้นสไตล์สถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่ผสมผสานเข้ากับความเป็นไทยภาคใต้ กลมกลืนกับความเป็นธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้องอาหารไทย ห้องอาหารซีฟู้ดริมหาด ห้องอาหารอิตาเลี่ยน สปา เป็นต้น”
นายปมุข กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้เริ่มลงมือก่อสร้างแล้ว และคาดว่าจะเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งตรงกับฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น โดยลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มยุโรป และจะมีส่วนหนึ่งเป็นสแกนดิเนเวีย อังกฤษ อิตาลี เนื่องจากไม่ต้องการเจาะจงนักท่องเที่ยวเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ต้องการให้เป็นตลาดที่มีการผสมผสาน เมื่อเกิดปัญหาขึ้นในตลาดใดตลาดหนึ่งก็จะสามารถทดแทนกันได้

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554


ไปไหว้พระศาลเจ้าปุดจ้อ จังหวัดภูเก็ต





"มั่น"ย้ำคลังพร้อมอุ้มราคาน้ำมัน

ย้อนไปเมื่อปี 2551 ขณะนั้นราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทะยานขึ้นไปถึงระดับ 140 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จนทำให้รัฐบาลในขณะนั้นต้องตัดสินใจใช้มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันมาช่วย ดูแลความเดือดร้อนของประชาชน โดยมีการลดภาษีในกรณีน้ำมันก๊าซโซฮอร์ 91 และ 95 ทั้งอี 10 อี 20 และอี 85 ลง 3.30 บาทต่อลิตร เหลือ 0.0165 บาทต่อลิตร และลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจาก 2.305 บาทต่อลิตร เหลือ 0.005 บาทต่อลิตร และลดภาษีน้ำมันไบโอดีเซล (บี 5) ลง 2.19 บาทต่อลิตร เหลือ 0.0048 บาทต่อลิตร

     แต่เมื่อรัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารประเทศ ก็มีการปรับเพิ่มภาษีน้ำมันเบนซินทุกประเภทรวดเดียวเป็น 5 บาทต่อลิตร และดีเซลจาก 2.305 บาทต่อลิตร เป็น 3.305 บาท
     อย่างไรก็ดี ในภาวะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายฝ่ายเริ่มกังวลกันว่าราคาน้ำมันจะทะลุ  100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต  และการที่รัฐบาลประกาศตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร โดยอนุมัติให้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวน 5,000 ล้านบาท เข้ามาอุ้มราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในเป้าหมาย ซึ่งเริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.2553 กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค.2554 รวม 4 ครั้ง ทำให้ขณะนี้รัฐบาลอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลแล้ว 1.65 บาทต่อลิตร และอุดหนุนไบโอดีเซล (บี 5) เพิ่มเป็น 2.50 บาทต่อลิตรแล้ว คำถามเรื่องการลดภาษีสรรพสามิตจึงดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่ง นายมั่น พัธโนทัย รมช.คลัง ในฐานะกำกับนโยบายกรมสรรพสามิต จะมาชี้แจงถึงความเป็นไปได้ดังกล่าว
O ภาวะราคาน้ำมันที่ยังสูงขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะที่กำกับดูแลกรมสรรพสามิต จะใช้ภาษีมาช่วยหรือไม่?     เรื่องราคาน้ำมัน เป็นเรื่องของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งกระทรวงหลักที่ดูแลคือกระทรวงพลังงาน คลังดูภาษีอย่างเดียว ตอนแรกที่ผมไปตรวจเยี่ยมกรมสรรพสามิตก็พบว่าเขาเก็บภาษีได้เกินเป้าหมาย จาก 3 แสนล้านบาท เป็น 4 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่ก็มาจากภาษีน้ำมัน เราก็คิดว่าถ้าจะช่วยลดภาระของประชาชน ก็น่าจะลดได้ลิตรละ 2 บาท โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงช่วยสัก 1 บาท แล้วใช้ภาษีสรรพสามิตน้ำมันช่วยอีก 1 บาท มันก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดภาระความเดือดร้อนของประชาชนได้ 
     อย่างปีที่แล้ว ช่วงต้นปีก็หนักหน่วงอยู่ แต่ทีนี้เมื่อนำเรื่องเข้าที่ประชุม กพช. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ท่านก็พูดว่ารัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนหลายอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟฟ้า ค่ารถ ค่าอะไรต่างๆ เพราะฉะนั้นท่านจึงอยากรอดูสักพัก ว่าถ้าน้ำมันดีเซลซึ่งใช้กันมากที่สุดทั้งภาคอุตสาหกรรมและการเกษตร หากเกิน 30 บาทต่อลิตร ค่อยคิดแก้ไขก็แล้วกันก็ให้ดูไปก่อน ผมจึงได้ถอยออกมา เพราะเป็นมติของ กพช. 
     ทีนี้พอมาช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาวของยุโรปกับอเมริกา  ก็เป็นธรรมดา ราคาน้ำมันก็ขึ้นมา  ก็มีคนพูดถึง สื่อก็พูดถึง ว่าผมเคยพูดไว้แล้วทำไมไม่ทำ ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือเป็นมติของ กพช. และความเห็นของท่านนายกรัฐมนตรี เราก็พูดไม่ได้ จึงมีการโยนไปทางกระทรวงพลังงานให้ใช้กองทุนน้ำมันฯ มาช่วย ประกอบกับ รมว.คลัง (กรณ์ จาติกวณิช) ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเอาภาษีสรรพสามิตไปช่วยก็เลยมีการใช้เงินกองทุนน้ำ มันฯ 5,000 ล้านบาท จากที่มีอยู่ 2.8 หมื่นล้านบาท มาดูแล ถ้าใช้หมดแล้วก็ค่อยว่ากัน โดยตอนนี้ระดับราคาน้ำมันดิบก็ขึ้นมา 93 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว ก็เลยไปประมาณ 30-40 สตางค์ และหากถึง 95 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล รมว.พลังงาน (นพ.ชวรัตน์ ชาญนุกูล) บอกว่า ก.พ.นี้ก็จะหมด ซึ่งในช่วงนี้ทางกรมสรรพสามิตก็มีการเตรียมการไว้เหมือนกัน คือถ้ามันขึ้นไปถึง 98 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แล้วถ้าทางกองทุนน้ำมันฯ ไม่ยอมควักเงินกองทุนออกมา ก็คงต้องใช้ของกรมสรรพสามิต ซึ่ง รมว.คลังก็พูดเหมือนอยู่กันว่า ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ ก็คงต้องใช้ แต่ผมคิดว่าถึงเดือนหน้า (ก.พ.) น่าจะหนาวที่สุดแล้ว พอเดือน มี.ค.-เม.ย. ก็คงคลายแล้ว พ.ค.ก็เป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ฉะนั้นภาวะราคาน้ำมันก็คงไม่เป็นที่น่าวิตกเท่าไหร่  มันคงไม่หวือหวา เพราะพวกเฮดจ์ฟันด์ก็ไม่ค่อยมารบกวนเหมือนอดีต  ขณะที่ทางกระทรวงพลังงานเองก็กำลังเตรียมจะขึ้นราคาแก๊สในภาคอุตสาหกรรม ส่วนภาคขนส่งกับครัวเรือนเขาไม่แตะ ซึ่งตรงนี้ก็ดีแล้ว ผมคิดว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องที่กำลังทำอยู่
O ถ้าราคาน้ำมันยังขึ้นเรื่อยๆ จะต้องทำอย่างไร ภาษีจะเข้ามาช่วยตอนไหน?
     ถ้าเงินกองทุนน้ำมันฯ 5,000 ล้านบาท ยังอยู่ก็ใช้ไป แต่ถ้ามากกว่านั้น ตรงนี้ผมตอบแทน รมว.คลังไม่ได้ คือท่านจะต้องคุยกับ รมว.พลังงาน ว่าจะใช้เงินของกองทุนน้ำมันฯ มากขึ้นไหม  หรือจะเร่งขึ้นราคาแก๊ส ภาคอุตสาหกรรม สำหรับเรื่องภาษีทางกรมสรรพสามิตเขาศึกษาอยู่  แต่ยังไม่ส่งมาถึงผม โดยในแง่ที่ว่าถ้ารัฐบาลสั่งให้ลด เขาก็ทำได้ แต่จะชี้ให้เห็นถึงผลกระทบว่ามีอย่างไร เช่น ลดภาษีไป 1 บาท จะกระทบรายได้ภาษีประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ฉะนั้นก็ต้องระวังเหมือนกัน เพราะเวลานี้รายได้หลักจริงๆ ก็คือรายได้ของสรรพสามิต ส่วนศุลกากรก็มีแต่ช่วย สรรพากรก็ช่วย มันก็น้อยลง ทีนี้เราตั้งเป้ารายได้สรรพสามิตปีนี้ไว้จะให้ถึง 4.8-5 แสนล้านบาท เราก็ต้องดูว่า ถ้าลดลงไปก็จะไม่ถึงเป้า แล้วในเมื่องบประมาณประเทศก็ต้องเพิ่มขึ้น มันจะทำให้ต้องขาดดุลเพิ่มขึ้นอีกหรือเปล่า ซึ่งกรมสรรพสามิตเขาก็เตรียมส่งมา ว่าถ้าอย่างนี้จะเป็นอย่างไร ถ้าอย่างนั้นจะเป็นอย่างไร
O ได้ยิน รมว.คลังบอกว่ายังพอมีช่องว่างลดภาษีได้?
     ใช่ ก็มีช่อง แต่โอกาสที่จะใช้กองทุนน้ำมันฯ น่าจะยังใช้ได้อยู่ เพราะยังไม่หมด แต่ 5,000 ล้านบาท อาจจะหมดก่อนเดือน ก.พ. ที่เป็นห่วงก็คือ มันอาจจะพีคมากช่วงนี้ คงจะยั้งไม่อยู่
O ถ้าเงิน 5,000 ล้านบาท หมดก่อน ก.พ.จะทำอย่างไร?
     ก็คงงัดแผนของกรมสรรพสามิต หรือเอาเงินกองทุนน้ำมันฯ มาใช้เพิ่มขึ้น เพราะกองทุนน้ำมันฯ เคยติดลบเป็นหลายหมื่นล้านบาทก็เคย เอามาใช้อีกก็ไม่ถึงกับน่าวิตกหรอก แต่ตรงนี้ผมก็ตอบไม่ได้ มันขึ้นกับ รมว.คลัง กับ รมว.พลังงานคุยกัน
O มองกองทุนน้ำมันฯ เป็นเครื่องมือที่ต้องดูแลโดยตรงหรือเปล่า?
     ถูกต้อง ก็น่าจะใช้กองทุนน้ำมันฯ ก่อน แต่ทางกองทุนน้ำมันฯ เขาก็ต้องการให้มีเงินเหลือไว้บริหารก๊าซด้วย ดังนั้นถ้ากระทรวงพลังงานกับคลังเห็นไม่ตรงกัน ถึงตอนนั้นก็ต้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นคนเคาะแล้วว่าจะให้ทำอย่างไร
O มองว่าราคาน้ำมันจะถึง 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลไหม?
     เดือน ก.พ.จะรู้เลย แต่ผมคิดว่ายังไงก็ไม่น่าจะเกิน 98 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เว้นเสียแต่ว่าจะมีตัวปั่น ซึ่งในอดีตมันเคยถึง 140 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลมาแล้ว แต่ว่าสภาพของเศรษฐกิจในขณะนี้ พูดจริงๆ ในระดับสากล หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้ามีใครมาปั่น มันจะไม่เหมือนคราวก่อนแล้ว คือตอนนั้นเศรษฐกิจแข็งอยู่ แล้วก็เอาพวกนี้มาปั่นให้เกิดกำไร แต่คราวนี้ถ้าปั่นไปก็จะยิ่งเสียหายใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคของจีนกับอินเดียก็มากขึ้น บราซิล รัสเซียด้วย รัสเซียก็มีน้ำมันเยอะ ก็ไปปั่นกันได้ จีนก็มีชิงไห่ ซึ่งถ้าเอาออกมาเมื่อไหร่ จีนก็อาจมีส่วนในเรื่องการกำหนดราคาได้เหมือนกัน ฉะนั้นโอกาสจะทำแบบก่อนคงลำบาก คล้ายๆ กับว่าคนมันอ่อนแอ ไปทุบเข้าไปอีกจะยิ่งไปใหญ่ แต่ที่ขึ้นคราวนี้ ผมว่าเกิดจากโรงกลั่นอลาสก้ามากกว่าที่มีการปิดซ่อมหรืออะไรนี่แหละ
O ถ้าราคาน้ำมันดิบขึ้นไปถึง 98 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาขายปลีกในประเทศจะเป็นเท่าไหร่?
     จะใกล้ 40 บาทต่อลิตรเลย พวกนี้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะรู้ดีที่สุด แล้ว ปตท.เป็นกรรมการใน กพช.ด้วย ดังนั้นเขาจะต้องรายงานให้ กพช.ทราบข้อมูลตลอด ส่วนคลังก็ดูแต่ว่าภาษีจะต้องลดไหม แต่ว่าโครงสร้างภาษีส่วนนี้ ในแง่รายได้มันกระทบแน่ รมว.คลังก็ไม่อยากให้กระทบ แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ เพราะน้ำมันเป็นเส้นเลือดเศรษฐกิจ ถ้ากระทบจริงๆ เราก็ต้องยอมลด
O ยิ่งตอนนี้รัฐบาลจะทำงบประมาณกลางปี 2554 ด้วย จะยิ่งทำให้ลดภาษียากไปด้วยหรือเปล่า?     อันนี้ผมยังไม่รู้ แต่ว่ากรมสรรพสามิตตอนนี้ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญด้านรายได้ จึงได้มีการปรับปรุงอะไรต่างๆ ไม่ว่าภาษีสุรายาสูบอะไรต่างๆ ก็เป็นแผนจะนำรายได้เข้ามา แต่ถ้าพูดไปเร็วก็จะมีการกักตุน ถ้าจะทำก็ต้องทำเลย.

ขอขอบคุณข้อมูลจาก


ปลูกต้นชงโคถวายแม่ของแผ่นดิน  มหามงคลเฉลิมพรรชนมพรรษา 87 พรรษา  บริเวณพื้นที่สองข้างทางสาธารณะ  ตั้งแต่ ถนนหน้าหมู่บ้านศรีสุชาติ - สามแยกประชาสามัคคี  หมู่ 6  ตำบลรัษฎา  อำเภอเมือง  จังหวัดภูเก็ต  วันที่ 18 ธันวาคม 2553

ผมเป็นกําลังใจให้ท่านนายก เส่ง ผมจะมีโอกาศได้พูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ตําบลรัษฎา
จะมีคําพูดว่า นายกมีความตั้งใจที่จะให้พึ้นที่ตําบลรัษฎาเป็นพื้นที่สีเขียวให้มากที่สุด
                                                          ด้วยความนับถือ
                                                        ชวนะ เกียรติชวนะเสวี
                                                       รองประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต




เมื่อวันที่ 7 ก.พ.  ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2553 โดยมีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิจารณา
                นายสมเกียรติ กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจำปี 2553 ให้จังหวัดพิจารณาคัดเลือกข้าราชและลูกจ้างประจำของทุกส่วนราชการในสังกัดภูมิภาคและให้รวมไปถึงข้าราชการครู บุคลาการทางการศึกษา ข้าราชการตำรวจ เพื่อคัดเลือกเป็นข้าราชการดีเด่นของจังหวัดภูเก็ต โดยแบ่งข้าราชการเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่ 1 ตำแหน่งประเภทอำนวยการ กลุ่มที่ 2 ตำแหน่งประเภทวิชาการ และกลุ่มที่ 3 ประเภทลูกจ้างประจำ 
                สำหรับผลการคัดเลือกปรากฏว่า ประเภทอำนวยการ ได้แก่ พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ประเภทวิชาการได้แก่ นางสาวกุสุมา สว่างพันธ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ประเภทวิชาการปฏิบัติการได้แก่ นางสาวสมจิตต์ เช้าฉ้อง  นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต ส่วนประเภทลูกจ้างประจำ ไม่มีผู้ได้รับการคัดเลือก ทั้งนี้ผู้ได้รับการคัดเลือกระดับจังหวัดจะไปรับรางวัลในวันที่ 1 เมษายน 2554 ที่กรุงเทพมหานครต่อไป  


ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ เสียงใต้ 


 ขอเเสดงความยินดีด้วยครับ พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ผมเคยร่วมงานกันหลายครั้ง ตั้งเเต่ผมเป็นคณะกรรมการรักษาความมั่นคงระดับอําเภอเเละจังหวัด เเละคณะกรรมการกตรของโรงพักเมือง ท่านรองพีรยุทธ ตั้งใจเเละมุ่งมั่นกับการทํางานมาเสมอครับ
                                                                             ด้วยความเคารพ เเละนับถือ
                                                                                ชวนะ เกียรติชวนะเสวี
                                                                                รองประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สโมสรกองทัพบกวันที่ 11 กพ 2554 ปเอกรุ่น1 มหาวิทยาลัยรามคําเเหง
พี่ บัง ที่ผมเคารพเเละนับถือ

วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554





 ระนอง -กรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา ลงระนอง หนุนระนองชูน้ำแร่ธรรมชาติเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ‏ 
       
       วันนี้ (9 ก.พ.) ที่โรงแรมทินิดีระนอง นางธันยรัศน์ อัจริยะฉาย สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดระนอง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา และคณะได้ประชุม ร่วมกับ นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นายพรพจน์ กังวาล สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดระนอง และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ตามโครงการศึกษารูปแบบการให้บริการด้วยน้ำแร่ธรรมชาติจังหวัดระนอง ซึ่งโรงพยาบาลระนองจัดขึ้น
       
       นางธันยรัศน์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า น้ำแร่ของจังหวัดระนองดีที่สุดของประเทศไทย เปรียบเสมือนสาวงาม แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ใช้ความงามของน้ำแร่นั้นเลย ขาดการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำแร่ของจังหวัดระนองยังไม่ติดตลาด ดังนั้น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องต่อสู้ลงทุนด้วยตัวเอง ไม่อยากให้ชาวระนองรอภาครัฐหรือพูดว่า ททท.ไม่มาดูแลสนับสนุนงบประมาณเท่าที่ควร ต้องค่อยๆ บุกเบิกไปทีละนิด
       
       เช่นเดียวกับจังหวัดภูเก็ต กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องต่อสู้ด้วยตนเองมานานถึง 20 ปี ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนเพียง 20% เท่านั้น การท่องเที่ยวต้องใช้เวลา ไม่เหมือนกับการค้าขายอย่างอื่นที่เห็นผลได้เร็ว ปัจจุบันนักท่องเที่ยวได้หันมาเน้นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น ดังนั้น จังหวัดระนองต้องทำตามเอกลักษณ์ของตัวเองที่มีอยู่ ไม่จำเป็นต้องทุ่มทุนเหมือนกับจังหวัดภูเก็ต การพัฒนาน้ำแร่ต้องใช้ผู้มีประสบการณ์และยึดหลักวิชาการด้วย
       
       นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า น้ำแร่เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดระนอง แต่จะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องดูในเรื่องอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น การเดินทางทั้งทางบกและทางอากาศ โดยเฉพาะทางบกทุกฝ่ายพยายามผลักดันให้ขยายถนนเพชรเกษมจากสี่แยกปฐมพร จ.ชุมพร มายังจังหวัดระนอง ส่วนทางอากาศภาคเอกชนได้ลงทุนจัดหาเครื่องบินมาให้บริการแล้ว ทั้งสองอย่างจะสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ส่วนเรื่องห้องพักภาคเอกชนได้ตื่นตัวพัฒนาไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะติดขัดเรื่องปัญหาที่ดิน



ขอขอบคุณ ASTVผู้จัดการออนไลน์
ขอเเสดงความยินดีกับ พ...โชติ ชิดไชย ผกก.สภ.กะเปอร์ จ.ระนอง เป็น ผกก.สภ.เมืองภูเก็ตครับ
                    ด้วยความเคารพเเละนับถือ
                          ชวนะ เกียรติชวนะเสวี
ขอเเสดงความยินดีกับ พ.ต.อ ธีระพล ทิพย์เจริญ ผกก.สภ.เมืองกระบี่ เป็น รอง ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานีครับ
                          ด้วยความเคารพเเละนับถือ
                                       ชวนะ เกียรติชวนะเสวี

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ขอเเสดงความยินดี .ต.ท.ชาติชาย นิโครธานนท์ รอง ผกก.ป.สภ.ละแม จ.ชุมพร เป็น ผกก.สภ.ทุ่งคาโงก จ.พังงา
                                            ด้วยความเคารพเเละนับถือ
                                            ชวนะ เกียรติชวนะเสวี
ขอเเสดงความยินดีกับ พ.ต.อ วิฑูรย์ กองสุดใจ ผกก.สภ.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต เป็น ผกก.สภ.ถลางครับ
                                     ด้วยความเคารพเเละนับถีอ
                                       ชวนะ เกียรติชวนะเสวี น.บ.
 ขอเเสดงความยินดีพ.ต.ท.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ รอง ผกก.ป.สภ.ถลาง จภูเก็ต เป็น ผกก.สภ.เชิงทะเล จว.ภูเก็ต
                           
                                ชวนะ เกียรติชวนะเสวี


ขอเเสดงความยินดีกับ พ.ต.อ ถาวร แสงฤทธิ์ ผกก.ฝ.1 บก.อก.ภ.8 เป็น รอง ผบก.อก.ภ.8ครับ
                  ด้วยความเคารพเเละนับถือ
                        ชวนะ เกียรติชวนะเสวี น.บ.
                        รองประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต

งานตรุษจีน-ย้อนอดีตเมืองภูเก็ตเริ่มแล้ว อัญเชิญตราประทับเจ้าแม่กวนอิมให้ ปชช.บูชา

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตอัญเชิญตราประทับเจ้าแม่กวนอิม จากเมืองสุ้ยหนิง ประเทศสาธารรัฐประชาชนจีน และองค์เจ้าแม่กวนอิมจากศาลเจ้าปุดจ้อให้ชาวภูเก็ตได้สักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดการจัดงานตรุษจีน-ย้อนอดีตเมืองภูเก็ตฯ ครั้งที่ 12
     
       วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ศาลเจ้าปุดจ้อ ได้มีพิธีอัญเชิญตราประทับ จากเจ้าอาวาสวัดกว๋างเต๋อ เมืองสุ้ยหนิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนและองค์เจ้าแม่กวนอิม จากศาลเจ้าปุดจ้อมาประดิษฐานยังสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี เพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชา เกิดความเป็นสิริมงคล ตลอดช่วงการจัดงานเทศกาลตรุษจีน-ย้อนอดีตเมืองภูเก็ต ครั้งที่ 12
     
       โดยมี น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต ฝ่ายบริหาร สมาชิกเทศบาลนครภูเก็ต ร่วมพิธีอัญเชิญออกจากศาลเจ้าปุดจ้อ ไปประดิษฐานบริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 72
     
       สำหรับงาน “งานตรุษจีน-ย้อนอดีตเมืองเก่าภูเก็ต” เทศบาลนครภูเก็ต ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต สมาคมเพอรานากัน ชุมชน OLD PHUKET TOWN (ย่านเมืองเก่าภูเก็ต) มูลนิธิเมืองเก่าภูเก็ต และชาวภูเก็ต ร่วมกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้เป็นการจัดครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ.2554 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี และพื้นที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถนนถลาง ซอยรมณีย์ ถนนกระบี่ ถนนพังงา และถนนเทพกระษัตรี
     
       โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูการท่องเที่ยวตลอดจนการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมอันล้ำค่าของเมืองภูเก็ตไว้ให้ชาวภูเก็ตและผู้มาเยือนได้ชื่นชมกับมรดกทางวัฒนธรรม
     
       สำหรับกิจกรรมในงาน วันนี้ (8 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันแรกของการจัดงาน เริ่มด้วยพิธีอัญเชิญตราประทับเจ้าแม่กวนอิม จากวัดกว๋างเต๋อ เมืองสุ้ยหนิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และองค์เจ้าแม่กวนอิม จากศาลเจ้าปุดจ้อ มาประดิษฐานยังสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา และในเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน มีขบวนแห่เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขบวนทางวัฒนธรรม
     
       โดยขบวนได้เคลื่อนออกจากหน้าวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต เลี้ยวซ้ายเข้าถนนภูเก็ต ผ่านวงเวียนสุรินทร์ เข้าถนนรัษฎา เลี้ยวขวา วงเวียนสุริยเดช ผ่านถนนเยาวราช เลี้ยวขวาเข้าถนนถลาง จนถึงเวทีกลาง สวน 72 พรรษาฯ เพื่อร่วมในพิธีเปิดงาน ในเวลา 19.00 น.
     
       ส่วนวันที่ 9 ก.พ.เวลา 19.00 น.จะมีพิธีเปิดการให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายโดยเทศบาลนครภูเก็ตร่วมกับบริษัท ทีโทที จำกัดมหาชน ณ เวทีหลัก สวน 72 พรรษาฯ
     
       อย่างไรก็ตาม สำหรับกิจกรรมหลักๆ ภายในงานจะประกอบด้วย การประกวดภาพถ่าย “วิถีชีวิตย่านเมืองเก่าภูเก็ต” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล กิจกรรมถนนคนเดิน การนำเสนอสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสด้วยระบบแสง และเสียง การจำหน่ายสินค้าและอาหารพื้นเมือง ศิลปินเปิดหมวก การแสดงบนเวที นิทรรศการ การละเล่นพื้นเมืองภูเก็ต ล่องเรือกอจ๊าน จัดทำแสตมป์ที่ระลึกย้อนยุค การสาธิตพับกระดาษทอง และนั่งรถโพถ้องสักการะศาลเจ้าในเขตเมืองภูเก็ต
     
       นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต ได้นำการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากมณฑลของสาธารณรัฐประชาชนจีน มาแสดง ณ เวทีหลัก ให้พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชมฟรีตลอด 3 วันของการจัดงาน




วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เทศบาลนครภูเก็ตลงนามความเข้าใจร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยวกับเทศบาลเมืองสุ้ยหนิงของจีน เพื่อพัฒนาและแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ผลักดันให้ทั้งสองเมืองเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว 
       
       เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (5 ก.พ.) ที่โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ ได้มีพิธีลงนามความเข้าใจเพื่อการสถาปนาความสัมพันธ์และความร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยว ระหว่างเทศบาลเมืองสุ้ยหนิง มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดย Mr.Hu Jla Zhenh รองผู้ว่าการเมืองส้ยหนิง กับ เทศบาลนครภูเก็ต โดยนางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ซึ่งมีนายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
       
       สำหรับบันทึกความเข้าใจเพื่อการสถาปนาความสัมพันธ์และความร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยวระหว่างเทศบาลนครภูเก็ตกับเทศบาลเมืองสุ้ยหนิงในครั้งนี้ คือ การเสริมสร้างความร่วมมือทางด้านศาสนาและพัฒนาด้านวัฒนธรรม เพื่อยกระดับการพัฒนาศาสนา วัฒนธรรมของทั้งสองฝ่าย ช่วยกันรื้อฟื้นวัฒนธรรมกวนอิม ค้นหาเส้นทางมรดก และวัฒนธรรมของกวนอิม และช่วยกันส่งทีมงานแสดงวัฒนธรรมในกิจกรรมสำคัญทางด้านการท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่าย
       
       เชื่อมความสัมพันธ์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เน้นความได้เปรียบทางด้านทรัพยากรการท่องเที่ยวที่ดีเยี่ยมของทั้งสองฝ่าย ก่อตั้งระบบองค์กรการร่วมมือกันทางด้านการท่องเที่ยว ส่งเสริมการค้นพบทรัพยากรและนวัตกรรมการท่องเที่ยว รวมกลุ่มทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนและแนะนำการท่องเที่ยวที่สำคัญ ทุ่มเทพลังเพื่อสร้างเส้นทางการท่องเที่ยววัฒนธรรมกวนอิมของจีน ร่วมกันสร้างแบรนด์การท่องเที่ยววัฒนธรรมกวนอิม ร่วมมือกันสร้างบอร์ดประกาศการบริการทางด้านการท่องเที่ยวตามจุดสำคัญของแต่ละฝ่าย ส่งเสริมการร่วมมือกันของบริษัทท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่ายให้มีการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว เพื่อให้สองเมืองกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว
       
       ตั้งระบบองค์กรป้องกัน ส่งเสริมการพัฒนาทางด้านความสัมพันธ์ที่แน่แฟ้น โดยให้มีการตรวจสอบโครงการของทั้งสองฝ่ายและระบบการวิจัยปัญหา กระชับความร่วมมือกันในโครงการท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งช่วยกันค้นคว้าเพื่อกระตุ้นจุดสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยว สร้างระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นเวลา กำหนดเวลาในการร่วมกันทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างนักปกครองท้องถิ่นและประชาชน เสริมสร้างระบบการสือสารซึ่งกันและกัน สร้างระบบการปรึกษาหารือให้แข็งแกร่ง โดยแผนกท่องเที่ยว วัฒนธรรม ศาสนา เป็นต้น



ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 

วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ขอเเสดงความยินดีกับ พ.ต.อ. อธิศวิส กมลรัตน์ (พี่อ๋อย) ผกก. ตม จว ชลบุรี บกตม 3  ที่ได้รับตํ่าเหน่งใหม่ ผกก 1 บก.สส.ตม ครับ


                                                                                                ด้วยความเคารพเเละนับถือ
                                                                                                     ชวนะ เกียรติชวนะเสวี น.บ.
                                                        
    










สตม.ได้รับรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน และรางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วม/เคาน์เตอร์บริการประชาชนประจำปี 2553 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2553 โดย ผบช.สตม. รับมอบจาก นายกรัฐมนตรี

บันทึก23 ธันวาคม 2553

วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การติดตามประเมินผลคือหนทางที่จะพิสูจน์ทุกอย่าง ขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือเพื่อบ้านเกิดครับ

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554



นายมณเฑียร ทองนิตย์ รองอธิบดีกรมที่ดิน เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรม

โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการเสริมสร้างและดำเนินการทางวินัย รุ่นที่ 2
ณ ห้องประชุมชั้น 6 อาคารรังวัดและทำแผนที่ กรมที่ดิน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2554